ผมไม่สนใจว่าต้องใหญ่มั้ย? แค่จับถนัด + สวยก็ OK :P
เรื่องมันเกิดตอนที่ผมจับ Xperia ของคุณเพื่อนที่จอใหญ่มากๆ, ขนาดที่ว่าใช้งานมือเดียวยากสุดๆ !
ช่วงหลังๆ ผมเห็นมือถือเริ่มไม่แข่งเรื่อง CPU [Central Processing Unit] แต่หันมาแข่งเรื่อง “หน้าจอ” และ “ความบาง” กันมากขึ้น, จนหลายคนเข้าใจว่าใหญ่ + บาง = ดี
ซึ่งผมว่าไม่จริง, บางรุ่นใส่กระเป๋ากางเกง [ขโมย XD] ก็ไม่ถนัด.. พอนั่งปุ๊บมือถือก็หักเป็น 2 ท่อนไปแล้ว – –
จอที่ดีต้องใหญ่แค่ไหน? PPI คืออะไร? Retina Display คือสุดยอดจริงมั้ย? ได้เวลามา Googling แบบบ้า[น]ๆ กับผมแล้วสิ?
งวดนี้เราจะไม่พูดแค่หน้าจอมือเท่านั้น แต่จะพูดถึง Technology หน้าจอที่ควรรู้ทั้งหมดเลย
ผิดตรงไหนท้วงได้นะครับ, เพราะค้นข้อมูลจากหลายที่
ขนาดของหน้าจอ [Display Size]
วัดตามแนวทแยง, มีหน่วยเป็นนิ้ว, จบ :)
อัตราส่วนการแสดงผล [Display Aspect Ratio]
คือความกว้าง : ความสูงของหน้าจอ
โดยที่เห็นกันบ่อยเป็นแบบ 4:3 [หรือ 1.33:1 ซึ่งก็คือการเอา 4 หารด้วย 3] [เช่น Content สมัยก่อน / รายการ TV แบบ Analog ของไทย] และ 16:9 [เช่น หนัง / รายการ TV แบบ Digital ของญี่ปุ่น / iPhone 5]
ซึ่งถ้าดูรายการ TV ของไทยบนหน้าจอแบบ 16:9 ก็ต้องเลือกว่าจะย่อภาพเพื่อรักษาอัตราส่วนกว้างยาว
หรือจะขยายภาพเพื่อเอาแถบสีดำด้านข้างออก [แต่ทำให้สาวๆ ในภาพดูอ้วนขึ้นเหมือนวงกลมกลายเป็นวงรีบวมๆ – -*]
[รายการ ICT Genius 9 By คุณหนุ่ยแบไต๋ไฮเทค :)]
แต่บางรายการที่ถ่ายเป็นแบบ 16:9 ก็เพิ่มแถบสีดำด้านบนล่างเพื่อรักษาอัตราส่วนและรองรับ TV แบบ 4:3 ดังรูปด้านบนครับ
ความละเอียดหน้าจอ [Screen Resolution]
เป็นจำนวน Pixels แนวนอน x แนวตั้ง, มีหน่วยเป็น Pixels
บางที TV / กล้องก็ชอบบอกเป็นจำนวน Pixels ทั้งหมดแล้วปัดเลขขึ้น เช่น iPhone 5 มี 640 x 1136 Pixels เรียก 0.7 MPixels
นอกจากนี้ยังมีชื่อเล่นอีก เช่น VGA [Video Grid Array] = 640 x 480 Pixels / XGA [Extended Graphics Array] = 1024 x 768 Pixels
โดยที่ควรรู้ตอนนี้ก็
HD [High Definition] = 1280 x 720 Pixels
FHD [Full HD] = 1920 x 1080 Pixels
QFHD [Quad FHD] หรือ 4K = 3840 x 2160 Pixels [4 เท่าของ FHD o_O!]
ความหนาแน่นของ Pixels [Pixels Density]
คือจำนวนเม็ด Pixels ในพื้นที่ 1 x 1 นิ้ว, มีหน่วยเป็น PPI [Pixels Per Inch]
เช่น Galaxy S4 มี 441 PPI / iPhone 5 มี 326 PPI
คือในพื้นที่ 1 ตร.นิ้ว, Galaxy S4 มี Pixels เล็กๆ อัดแน่นเรียงกันตั้ง 441 PPI, ส่วน iPhone 5 มีแค่ 326 PPI เท่านั้นเอง!
ถามว่าเราแยกออกมั้ย?
ไม่, เพราะ 326 PPI คือความหนาแน่นสูงที่สุดที่คนปกติจะแยกเม็ด Pixels ออก..
แน่นอนว่าความเนียนจะแปรผันตามระยะห่างจากตาถึงจอและประสิทธิภาพของตาด้วย..
ดังนั้น Galaxy S4 VS iPhone 5, ถ้ามองยังไงก็ชัดเท่ากัน [ยกเว้นพวกตาดี – -*], แม้ในเชิง Technique, จอของ Galaxy S4 จะชัดกว่า iPhone 5 ก็ตาม
อนาคต
มือถือมีแนวโน้มจะใหญ่ขึ้นและบางขึ้น [จนผมสงสัยว่ามันจะแถม Remote Control + Bluetooth Headset มาด้วยมั้ย – -]
[Credit: Animoca]
ซึ่ง Gap ระหว่าง Smartphone และ Tablet จะน้อยลง [Smartphone จอใหญ่ขึ้น, Tablet จอเล็กลง]
คนที่ใช้มือถือจอใหญ่ที่ผมเคยเห็นเนี่ย 80% คือผู้หญิง, เพราะชอบเก็บมือถือในกระเป๋าถือและใช้ 2 มือ ^ ^”
ส่วนผู้ชายชอบเก็บมือถือในกระเป๋ากางเกงและใช้มือเดียว, จึงมีปัญหาตอนหยิบ / ใส่
ก็น่าสนเหมือนกันที่มือถือจอใหญ่จะเป็น Fashion เหมือน Plugy [จุกปิดรูหูฟัง] รูปแมวได้มั้ย? จะทำอะไรออกมาขายผู้หญิงได้บ้าง? :D
มือถือที่ดีต้องใหญ่แค่ไหน?, บางเท่าไหร่?
ส่วนตัวผมว่ามือถือที่ดีไม่เกี่ยวกับขนาดของหน้าจอ / ความบาง / Spec
แต่คือรุ่นที่เราชอบ..
เหมือนกับแฟนครับ :P [มุกนี้อีกแล้ว >///<]
ไม่เกี่ยวกับอายุ / น้ำหนัก / ความฉลาด / ความสูง
แต่คือคนที่ใช่และเข้ากันได้กับเรา
จะคบคนที่เราชอบมากที่สุด.. หรือจะทนคบกันใครก็ไม่รู้เพื่อความพอใจของคนอื่นรึ ?
จะคบกับปีนึงแต่ไม่ชอบกัน.. เพื่ออะไรละ?
แล้วจะใช้มือถือจอใหญ่ที่มีทุกอย่าง.. ยกเว้นรสนิยม? o_O?
จบ Blog แล้ว, ใครอ่านแล้ว Get ก็แสดงตัวนิดละกันนะครับ ^ ^v
PS. ส่วน TV / หน้าจออื่นๆ ก็ควรดูพื้นที่ใช้งานและเงินในกระเป๋าครับ – -/
[แถม] Technology หน้าจอที่ควรรู้
1. CRT [Cathode Ray Tube] = พวกจอตู้นี่แหละ, ใหญ่ หนัก หนา เทอะทะ หายาก
2. LCD [Liquid Crystal Display] = จอที่ต้องมี Backlight ส่องแสงไปยัง Pixels สร้างสีต่างๆ
– ไม่ว่าจะสร้างสีอะไรก็ต้องการไฟฟ้า
– ทำให้สีดำไม่ดำจริงๆ เพราะมันคือการส่องแสงสร้างสีดำ [งงมั้ย – -a]
– อายุการใช้งานนานกว่า
– ต้นทุนถูกกว่า
3. AMLCD [Active Matrix LCD] = จอ LCD ที่มีการคุมแรงดันไฟฟ้าของ Pixels
4. OLED [Organic Light Emitting Diode] = จอที่ Pixels ส่องแสงเองได้
– ไม่ต้องมี Backlight
– จะสร้างสีดำก็ไม่ต้องการไฟฟ้า, เพราะมันปิดแสง [ไม่ส่องแสงอะไร]
– ทำให้สีดำดำจริงๆ
– ประะหยัดไฟ
– สว่างกว่า
5. AMOLED [Active Matrix OLED] = จอ OLED ที่มีการคุมแรงดันไฟฟ้าของ Pixels
6. จอแบบ IPS [In-Plane Switching] = จอที่นิยมใช้ใน Touchscreen เช่น iPhone 5
– มีมุมมองกว้างกว่า [Viewing Angle สูง]
– Pixels ตอบสนองเร็วกว่า
– สีไม่จืด
– ไม่เกิดรอยเงาเมื่อถูกสัมผัส
จบบริบูรณ์ :)